วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

บำรุงจอตาด้วย 5 อาหาร

บำรุงจอตาด้วย 5 อาหาร/นพ.กฤษดา ศิรามพุช


      
       น้ำสกัดเบอรี่บำรุงตาพากันเจาะตลาดกลุ่มหนุ่มสาวผู้ทำงานอยู่หน้าจอ แต่ท่านที่รักทราบไหมครับว่าในอาหารสดง่ายๆ ที่เราหารับประทานได้นั้นก็มีวิตามินบำรุงจอตาอยู่
      
       
แถม “ครบถ้วน” ด้วย
      
       
เพราะการจะช่วยจอตาและสุขภาพตาได้นั้นต้องได้รับจาก “อาหารธรรมชาติ” จึงจะครบเป็นทีม “ของดี” ที่ชื่อพฤกษเคมีที่จะช่วยได้อย่างสุดติ่งเต็มที่ ด้วยนัยน์ตาของเรามีความละเอียดอ่อนมาก หากเป็นเป็นส่วนสำคัญหลักๆ ก็จะได้ดังนี้
      
       
*สุขภาพตา 5 ส่วนที่ควรทราบ
      
       
1)  เยื่อบุตา ส่วนนอกที่หุ้มตาไว้ เห็นชัดสุดคือที่หุ้มตาขาว เวลาตาแดงก็จะดูแดงก่ำขึ้นมา นั่นละครับคือ ส่วนของเยื่อบุตา ควรระวัง “แดด”, “ลม” และ “ฝุ่น” ซึ่งทำให้เกิดต้อได้
      
       
2)  กระจกตา เป็นส่วนหน้าโค้งนูนสวย เหมือนกระจกโค้งตรงโค้งหักศอกนั่นละครับ กระจกตาบอบบางเพราะไม่มีเลือดมาเลี้ยง ดังนั้นคนใส่คอนแทกเลนส์จึงต้องระวังให้ดี
      
       
3)  เลนส์ตา อยู่ถัดเข้าไปเป็น “เลนส์นูน” หยุ่นใสพอประมาณประกอบด้วยเส้นใยคอลลาเจนสานเรียงกันเป็นแนวสวย ต้องระวัง “ต้อกระจก” ทำให้เลนส์ตาขุ่น
      
       
4)  วุ้นในตา เป็นน้ำวุ้นเหลวใสที่ช่วยหักเหแสงให้เรามองเห็นภาพได้ดังที่ท่านนั่งอ่านบทความนี้อยู่ วุ้นนี้นานไปจะ “เสื่อม(Vitreous degeneration)” ได้ทำให้เห็นเป็นฝุ่นผง(Floaters) ลอยไปมา
      
       
5)  จอตา ซึ่งรวมถึงขยุ้มกระจุกเส้นเลือดและเส้นประสาทที่สานกันเป็นร่างแหอยู่ที่จอตาคอยช่วยในการรับภาพเหมือนกับจอหนังที่เราดูนั่นเองครับ
      
       
และนั่นก็คือ 5 เสาหลักที่ทำให้เราเห็นโลกมีสีสัน ช่วยให้ชีวิตของท่านสว่างไสวไปด้วยปัญญามาเสมอ แต่หลายส่วนที่ว่านั้นเมื่อเสียแล้วแก้ไม่ได้ไม่มีอะไหล่เปลี่ยนครับ ดังนั้นการบำรุงไว้ให้ดีก่อนจึงเป็นความรอบคอบที่ดีที่สุด
      
       
มีสิ่งที่ช่วยให้ท่านมีสุขภาพตาดีแบบง่ายๆ ไม่ต้องรอ ดังต่อไปนี้ครับ
บำรุงจอตาด้วย 5 อาหาร/นพ.กฤษดา  ศิรามพุช
       1) เก๋ากี้ หรือ “โกจิเบอรี่”
      
       เป็นลูกเบอรี่ที่ช่วยนัยน์ตามากจากสารกลุ่ม “โพลีฟีนอลส์” และวิตามินที่เป็นเสมือน “เกราะ” ป้องกันจอตาจากรังสียูวี มีวิตามินซีมาก ยิ่งเลือกแบบสีเข้มยิ่งดีนะครับ
      
       ที่สำคัญคือ หาง่าย มักอยู่ในสารพันแกงจืดและน้ำซุป ท่านอาจกินจากก๋วยเตี๋ยวมื้อเที่ยงหรือจะเลี่ยงรับประทานแบบชงดื่มเป็นชาสมุนไพรก็ได้ ไม่ต้องง้อเบอรี่เมืองนอกเสมอไป

บำรุงจอตาด้วย 5 อาหาร/นพ.กฤษดา  ศิรามพุช
       2) ปวยเล้ง
      
       ผักชื่อจีนแต่เกิดแถบเปอร์เซียโน่น มีของดีช่วยบำรุงตาที่ชื่อ “ลูทีน(Lutein)” เป็นวิตามินสีเหลืองที่มีการศึกษาสำคัญที่คุณหมอตารู้จักชื่อ “AREDS study” ที่พิสูจน์แล้วว่าการรับประทานผักเขียวเหล่านี้จะช่วยสุขภาพจอตา(AMD)ได้จริง
      
       ปวยเล้งยิ่งกินกับไข่ยิ่งดีครับ

บำรุงจอตาด้วย 5 อาหาร/นพ.กฤษดา  ศิรามพุช
       3) คะน้า
      
       เป็นอาหารง่ายๆ แบบไทยๆ อีกแล้วครับ ให้เลือกที่ “ยิ่งเขียวยิ่งดี” มีวิตามินบำรุงตาทั้ง ลูทีน และ “ซีแซนทิน(Zeaxanthin)” ที่กินแล้วช่วยสุขภาพนัยน์ตาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งวิตามิน 2 อย่างนี้อยู่ในผักเขียวส่วนใหญ่ครับ
      
       ดังนั้นถ้าช่วงไหนคะน้าแพงก็สลับเป็นตำลึงหรือบร็อคโคลีบ้างก็ยังไหว ลองทานแบบไม่ผ่านความร้อนบ้างก็ช่วยดูดซึมดีครับ

บำรุงจอตาด้วย 5 อาหาร/นพ.กฤษดา  ศิรามพุช
       4) ลูกหว้าและลูกหม่อน รวมถึงลูกไม้สีม่วงสวยอีกมาก
      
       อยากให้รับประทาน “ม่วง” เข้าไว้ครับเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ
      
       สำคัญ ช่วยสุขภาพตาคือกลุ่ม “โอพีซี(OPCs)” เป็นสารม่วงต้านร่วงโรย โดยต้านสนิมแก่และความเสื่อมได้ดีกว่าวิตามินอีนับร้อยเท่า

บำรุงจอตาด้วย 5 อาหาร/นพ.กฤษดา  ศิรามพุช
       5) น้ำมันปลาและสาหร่าย
      
       ช่วยให้ดวงตาได้ “น้ำมันดี” ป้องกันการอักเสบ ช่วยอาการ “ตาแห้ง(Dry eye)” ที่นักทำงานหน้าคอมพ์หลายท่านเป็นจนรำคาญ อยากให้หาปลาสด, น้ำมันปลา หรือว่าสาหร่ายทะเลมารับประทานกันจะช่วยได้ครับ
      
       
หลายท่านมีปัญหาเรื่องตา ไปหาคุณหมอมาตาที่ไหนว่าดัง หรือสั่งยาหยอดและน้ำตาเทียมมาใช้จนหมดไปเป็นโหลก็ยังไม่สบายสมใจ ก็ขอฝากให้ลองใช้วิธีธรรมชาติช่วยดวงตาดูบ้าง
      
       
เพราะดวงตาคือ ความสุขของหัวใจด้วยครับ
       
       
     ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก www.manager.co.th

วันจันทร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557

    แค่จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้แล้ว !

    แค่จิบเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะ ก็แก้ปัญหาสุขภาพได้แล้ว !


    เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
                
              เครื่องดื่มถือว่าเป็นสิ่งที่ร่างกายขาดไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มอีกสารพัดชนิดที่เราดื่มกันเป็นประจำ แล้วแต่เวลาไหนอยากจะดื่มอะไร แต่ทราบไหมคะว่า หากเราดื่มเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะเวลาของมันสักนิด ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด แถมยังดีต่อสุขภาพแบบคูณ 2 อีกต่างหาก ว่าแล้วก็มาดูข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้จากเว็บไซต์ Huffington Post  ให้ชัด ๆ กันอีกทีดีกว่า เวลาไหนควรดื่มอะไร ตามมาดูกันเลย !


    นม
            
     สร้างกล้ามเนื้อ ต้องดื่มนม
        
              ในน้ำนมมีโปรตีนอย่างเวย์โปรตีน และเคซีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญกับการสร้างกล้ามเนื้อของร่างกาย ดังนั้นหนุ่มสาวคนไหนอยากให้ร่างกายแน่นเปรี๊ยะไปด้วยกล้ามเนื้อ นมนี่ล่ะคือคำตอบ
                

    ชาเขียว

     อยากลดน้ำหนัก จัดชาเขียวสิ

              เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ชาเขียวสามารถช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ผลเร็วขึ้น ด้วยการกระตุ้นระบบเมตาลอลิซึมให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และหากคุณอยากลดน้ำหนักให้ได้ผลอย่างยั่งยืน ก็ต้องดื่มชาเขียวอุ่น ๆ วันละ 4 แก้วเป็นประจำนะจ๊ะ
     

    นมช็อกโกแลต


     เพิ่มความกระฉับกระเฉง ต้องนมช็อกโกแลตเลย
               
              ในเวลาที่ร่างกายอ่อนล้า ต้องการความสดชื่น เพื่อให้รู้สึกกระฉับกระเฉง แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเย็น ๆ นมช็อกโกแลต หรือเครื่องดื่มชูกำลังทุกชนิดก็ได้ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีส่วนผสมของโปรตีน โซเดียม และโพแทสเซียม ซึ่งจะช่วยเติมพลังให้เราหลังจากการเสียเหงื่อเยอะได้จ้า
     
    น้ำมะพร้าว

     หลังวิ่ง น้ำมะพร้าวสิเด็ด !
                
              นอกจากน้ำเปล่าเย็น ๆ สักขวดแล้ว หลังจากเหนื่อยหนักจากการวิ่งเป็นระยะเวลานาน เราควรดื่มน้ำมะพร้าวให้ชื่นใจด้วย เพราะน้ำมะพร้าวมีทั้งสารกระตุ้นร่างกาย ช่วยเพิ่มความอึด และความทนทาน และเป็นน้ำที่ให้พลังงานกับร่างกายได้พอ ๆ กับเครื่องดื่มชูกำลัง แต่มีปริมาณแคลอรี่ที่น้อยกว่าด้วย หรือคุณจะดื่มน้ำมะพร้าวก่อนเริ่มวิ่งสัก 1-2 ชั่วโมงก็ดี แล้วคุณจะวิ่งได้นาน 90 นาทีแบบไม่ค่อยรู้สึกล้าเท่าไรเลยล่ะ
     
    น้ำขิง

     น้ำขิง ช่วยบรรเทาอาการมวนท้อง
                
              ใครที่มักจะปวดท้องบ่อย ๆ เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออาหารไม่ย่อย รวมทั้งอาการปวดท้องจากประจำเดือน ลองดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ดูสิ เนื่องจากน้ำขิงมีส่วนช่วยคลายอาการเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าท้อง และช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ด้วย
     
    น้ำผึ้งมะนาว

     บรรเทาอาการหวัด ด้วยน้ำผึ้งมะนาว
                
              น้ำผึ้งมีสารช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย และอาการอักเสบ ส่วนมะนาวก็มีวิตามินซีสูงมาก เมื่อน้ำทั้ง 2 อย่างมารวมกันเป็นเครื่องดื่มอุ่น ๆ ไว้จิบในช่วงที่คุณป่วยเป็นไข้หวัด เชื้อไวรัสที่อยู่ในร่างกายก็จะถูกทำลายไป อาการไข้ก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ และหายไปในที่สุด
     

    น้ำผึ้ง

     จิบน้ำผึ้งอุ่น แก้อาการไอ
                
              ใครที่กำลังมีอาการไอ ให้จิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ อย่างน้ำผึ้งผสมน้ำร้อนเป็นประจำ เนื่องจากน้ำผึ้งมีส่วนช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก อีกทั้งความหวานของน้ำผึ้งยังช่วยขับน้ำลาย และเสลดในคอเราได้ด้วย ก็เลยส่งผลให้อาการไอลดน้อยลงด้วยนั่นเอง

     
    ขมิ้น

     ชาขมิ้น บรรเทาอาการเจ็บคอ
                
              อาการเจ็บคอมักจะมาพร้อมกับอาการไอ และไข้หวัด ซึ่งสิ่งที่ทำให้คุณเจ็บคอก็คือเชื้อไวรัส ที่ทำให้เกิดการอักเสบในคอนั่นเอง ดังนั้นเราก็เลยต้องจัดชาขมิ้น ซึ่งมีคุณสมบัติแก้อาการอักเสบ และกำจัดเชื้อแบคทีเรียให้ร่างกายสักหน่อย อาการเจ็บคอที่ทรมานอยู่จะได้หายไปนะจ๊ะ

     
    กะทิ


     กะทิ ลดอาการแสบร้อนในปาก จากอาหารเผ็ด
                
              เวลาที่กินอะไรเผ็ด ๆ เข้าไปมักจะเกิดอาการแสบร้อนปาก ทำให้เผ็ดไม่หายอยู่อย่างนั้น และต่อให้ดื่มน้ำเย็น ๆ เข้าไปมากเท่าไรความเผ็ดร้อนก็ไม่หายไปสักที ถ้าอย่างนั้นลองหาขนมหวานน้ำกะทิมากินดูสิคะ เพราะไขมันจากกะทิมีโปรตีนช่วยลดอาการเผ็ดร้อนได้ หรือจะลองดื่มนมที่มีแลคตินช่วยลดอาการแสบร้อนเนื่องจากความเผ็ดก็ได้จ้า
     

    ว่านหางจระเข้


     น้ำว่านหางจระเข้ แก้อาการท้องผูก
                
              สำหรับคนที่ท้องผูกเป็นประจำ ลองดื่มน้ำว่านหางจระเข้วันละ 1 แก้วเป็นอย่างต่ำดูสิจ๊ะ เพราะน้ำว่านหางจระเข้อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่จะช่วยปรับสมดุลในลำไส้ กระตุ้นระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นได้ง่าย ๆ เลยล่ะ
     

    กาแฟ

     แก้ง่วงด้วยกาแฟ น้ำเปล่า และสไปรูลิน่า
                
              ตกบ่ายทีไรเป็นต้องง่วงจนตาจะปิดทุกที ยังงี้คงต้องหากาแฟสักแก้วมาดื่มกระตุ้นร่างกายสักหน่อย แต่หากใครไม่ใช่คอกาแฟ ก็สามารถดื่มน้ำเปล่าเย็นเจี๊ยบ หรือน้ำเปล่าผสมผงสาหร่ายสไปรูลิน่าสักหน่อยก็ได้ โปรตีนจากสาหร่ายชนิดนี้จะช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้อีกเยอะเลยจ้า
     

    ชาคาโมมายล์

     นอนไม่หลับ ต้องจัดนมอุ่น ๆ และชาคาโมมายล์
                
              นมอุ่น ๆ มีโปรตีนและกรดอะมิโนที่สามารถกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนเมลาโธนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ ส่วนชาคาโมมายล์ก็ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกาย ช่วยให้คุณนอนหลับสบายไปตลอดทั้งคืนเชียวล่ะ
     
    เลมอนบาล์ม


     ลดความดันด้วยเลมอนบาล์ม
               
              เลมอนบาล์มเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่ช่วยผ่อนคลายร่างกาย และลดความดันโลหิต กระตุ้นระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ดังนั้นใครที่มีปัญหาเรื่องความดันโลหิตสูงเกินปกติ ก็ลองดื่มชาเลมอนบาล์มบรรเทาอาการก่อนก็ได้ค่ะ
     
    น้ำเปล่า

     ดื่มน้ำเปล่าระหว่างมื้อ ช่วยย่อยอาหาร
                
              การดื่มน้ำระหว่างที่รับประทานอาหาร หรือหลังจากรับประทานอาหารอิ่ม สามารถช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารของเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การดื่มชาสมุนไพร เช่น ชามิ้นต์ หรือชาเปปเปอร์มิ้นต์ ก็สามารถกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้เราได้ด้วยเช่นกันจ้า

     
    โยเกิร์ต

     ดื่มนม-โยเกิร์ต แก้เผ็ด
                
              อย่างที่บอกไปว่า โปรตีน และไขมันจากนมสามารถลดอาการเผ็ดของอาหารได้เป็นอย่างดี เนื่องจากโปรตีนและไขมันเหล่านี้ จะไประงับสารแคปไซซิน สารที่ให้รสเผ็ดในพริก ดังนั้นต่อให้กินอาการเผ็ดร้อนแค่ไหน แต่ถ้าตบท้ายด้วยการดื่มนม หรือกินโยเกิร์ต อาการเผ็ดร้อนก็จะหายไปอย่างรวดเร็วจนแทบไม่รู้สึกเลยล่ะ ไม่เชื่อลองดูสิ
     

    กล้วยปั่น


     เมาแฮ้งค์ กล้วยปั่นช่วยได้
                
              นักปาร์ตี้ที่มักจะตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัวตุบ ๆ เนื่องจากอาการแฮ้งค์ แนะนำให้ดื่มน้ำเย็น ๆ สักแก้ว หรือถ้ายังไม่รู้สึกดีขึ้น ลองหาน้ำส้มคั้น หรือน้ำกล้วยปั่นมาดื่มก็ได้ เพราะในน้ำผลไม้เหล่านี้จะมีโพแทสเซียม น้ำตาล และอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
     
    น้ำเปล่า

     น้ำเปล่า ลดกลิ่นปาก
                
              เครื่องดื่มประเภทกาแฟ นม หรือน้ำผลไม้บางชนิดมีกลิ่นแรง และมักจะติดปากเราไปตลอด ซึ่งหากต้องการดับกลิ่นปาก และทำให้ลมหายใจสดชื่น ต้องดื่มน้ำเปล่า หรือบีบน้ำมะนาวลงไปในน้ำเปล่าด้วยก็ได้ ซึ่งนอกจากจะได้ล้างคราบกลิ่นเหม็น ๆ ในช่องปากแล้ว ยังช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวอีกด้วยนะจ๊ะ
     

    นม

     ขจัดความหิวด้วยนม
                
              การดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหารสามารถช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น แต่นั่นก็ต้องแลกกับการหิวบ่อยด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากคุณกำลังอยู่ในช่วงไดเอต และไม่อยากกินเยอะ ทุกครั้งที่รู้สึกหิวในระหว่างวัน แนะนำให้ดื่มน้ำแคลอรี่ต่ำสักกล่อง ให้โปรตีนและความหวานของนมช่วยลดความหิวของคุณก็ดีจ้า
     
    เบกกิ้งโซดา

     บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยเบกกิ้งโซดา
                
              เบกกิ้งโซดาประมาณ 1/2 ช้อนชา ผสมกับน้ำเย็น 1 แก้วเต็ม คนให้เข้ากัน แล้วนำมาดื่ม เป็นสูตรเครื่องดื่มช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเบกกิ้งโซดามีโพรไบโอติกที่ช่วยย่อยอาหาร ลดแก๊สในกระเพาะ ทำให้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อลดลงนั่นเอง
     

              ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่า ปัญหาสุขภาพบางอย่างก็สามารถบรรเทาได้ด้วยเครื่องดื่มง่าย ๆ ที่เราดื่มกันเป็นประจำทุกวัน เพียงแค่เราต้องเลือกดื่มเครื่องดื่มให้ถูกจังหวะเวลาเท่านั้นเองเนอะ

    ที่มา และขอขอบคุณ  :   www.kapook.com