วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

ปัญหานิ่วค้างในท่อน้ำดี ระหว่าง/หลัง ล้างพิษตับ

   ณ บ้านพระอาทิตย์
       โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
     
       แม้ว่าการล้างพิษตับจะได้รับการพิสูจน์ตาม ผลการสำรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ในผู้ที่เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ 108 คน ของกลุ่มบุญคณา จังหวัดขอนแก่น ระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม พ.ศ.2556 ทำให้เราได้เห็นว่านิ่วในถุงน้ำดีมีขนาดเล็กลงหรือถูกขับออกหลังผ่านหลักสูตรล้างพิษตับ โดยจำนวนผู้เข้าหลักสูตร 108 ราย เมื่อได้รับการตรวจโดยอัลตร้าซาวด์แล้วพบว่า ผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดีก่อนเข้าหลักสูตรล้างพิษตับ 15 ราย ปรากฏว่าหลังจบหลักสูตรล้างพิษตับมีคนที่นิ่วหายไปจากถุงน้ำดี 7 ราย ยังคงมีนิ่วอยู่แต่ขนาดเล็กลงหรือมีจำนวนน้อยลง 5 ราย และเท่าเดิม 3 ราย (อ่านรายละเอียด ในภาค 4 เขาว่าล้างพิษตับเป็นเรื่อง “หลอกลวง” ตอนที่ 3 : พิสูจน์ผลการตรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ 108 คน ครั้งแรกในประเทศไทย)
     
        หมายความว่าจากการศึกษาครั้งนี้พบว่าผู้ที่มีนิ่วในถุงน้ำดีมีอาการดีขึ้น 12 ราย จาก 15 ราย และเรื่องที่น่าสนใจพบว่ามีหลายกรณีมีนิ่วขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด
ภาพที่ 1 แสดงผลสำรวจอัลตร้าซาวด์นิ่วในถุงน้ำดีผู้เข้าหลักสูตรล้างพิษตับที่ผู้มีนิ่วส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้น
       สิ่งที่น่าสนใจก็คือผู้ที่มีนิ่วเหล่านี้ไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัดเลย โดยเฉพาะมีรายหนึ่งนั้นเดิมมีนิ่วในถุงน้ำดีขนาดใหญ่ 3.7 เซนติเมตร ไม่สามารถที่จะผ่านท่อน้ำดีได้เลย แต่การที่หายไปได้นั้นย่อมแสดงว่ากระบวนการล้างพิษตับทำให้นิ่วมีขนาดเล็กลง
     
        เพราะโดยปกติแล้วนิ่วในท่อน้ำดี ถ้าเป็นก้อนเล็กๆอาจมีหลายก้อน แต่ก็จะสามารถเคลื่อนลงมาจากถุงน้ำดีลงมาได้ แต่ถ้าเป็นก้อนใหญ่เกิน 1 เซนติเมตรมักจะติดอยู่ที่ท่อน้ำดี ถ้าอุดตันน้ำดีก็จะผ่านไม่ได้ทำให้ตัวเหลือง ตาเหลือง หากติดเชื้อร่วมด้วยจะมีไข้หนาวสั่น หรือหากมีนิ่วอยู่ในถุงน้ำดีมากก็มีโอกาสที่ถุงน้ำดีจนเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่บริเวณดังกล่าวได้
     
        แต่การที่ก้อนิ่วขนาดใหญ่หายไปได้ทั้งๆที่มีขนาด 3.7 เซนติเมตร อาจเกิดขึ้นได้ 2 กรณีคือ นิ่วมีขนาดเล็กลง และท่อน้ำดีเปิดกว้างมากขึ้น
     
        เมื่อลงรายละเอียดก็จะยิ่งเห็นได้ชัดว่านิ่วในถุงน้ำดีมีขนาดเล็กลงจริงๆ โดยในบางรายจากเดิมมีขนาด 1.9 เซนติเมตร ลดลงเหลือ 1.2 เซนติเมตร
ภาพที่ 2 แสดงผลสำรวจอัลตร้าซาวด์นิ่วในถุงน้ำดีที่มีขนาดเล็กลงหลังผ่านหลักสูตรล้างพิษตับ
       นั่นหมายความว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหานิ่วในถุงน้ำดีได้โดยไม่ต้องมีการผ่าตัด!!!
     
       อันเดรียส์ มอริสต์
 ผู้ทรงอิทธิพลด้านการล้างพิษตับชาวเยอรมันได้กล่าวถึงกรณีที่นิ่วมีขนาดเล็กและนิ่มลงว่าเกิดจากน้ำผลไม้ เช่น น้ำแอปเปิ้ล ซึ่งมีกรดมาลิคที่ทำให้นิ่วนิ่มลง และการดื่มน้ำมันมะกอกทำให้ท่อน้ำดีเปิดกว้างและขับออกมา ในขณะเดียวกันน้ำดีที่ออกมาจำนวนมากด้วยการดื่มน้ำผลไม้ทำให้คุณภาพน้ำดีเปลี่ยนไปทำให้ตะกอนนิ่วเล็กลงและขับออกมาได้
     
       รศ.นพ.อนัน ศรีพนัสกุล อาจารย์แพทย์จากภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อธิบายว่า “คือเขาไปกระตุ้นน้ำดีออกมาเยอะๆ มันก็อาจจะ Flush หรือล้างออกมาได้ แล้วก็น้ำดีหลังจากที่อดอาหาร ทานแต่น้ำแอปเปิ้ลมันก็มีผล พวกวิตามินซี ทำให้น้ำดี อาจจะคุณภาพน้ำดีของคนๆนั้นเขาเปลี่ยนไป สมัยเก่าอาจจะเป็นน้ำดีชนิดที่พร้อมจะตกตะกอน เป็นนิ่วง่าย ก็กลายเป็นน้ำดีที่ดีขึ้นกว่าเก่า มันก็อาจจะมาละลายอยู่ตรงนี้ได้ แล้วพอมันเล็กลงมันก็มีโอกาสหลุดออกมาได้ ถ้ามันดีมากๆมันอาจจะละลายหมดไปเลยอย่างนี้ก็ยิ่งดี เป็นเล็กๆเลยหรือเป็นฝุ่นเป็นตะกอนเลยมันก็ออกมาได้ง่ายขึ้น”
     
        แม้จะเป็นวิธีที่น่ามหัศจรรย์เพราะเป็นการขจัดนิ่วขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเสี่ยงเลย เพราะหากสมมุติเกิดนิ่วมีขนาดเล็กลงแต่เล็กลงไม่พอ แล้วปรากฏว่าระหว่างล้างพิษหรือหลังล้างพิษนิ่วเหล่านั้นถูกขับออกมาแล้วปรากฏว่าติดอยู่ที่ท่อน้ำดี ตรงนี้ก็ถือว่ามีอันตรายเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพียงแต่ตามสถิติเท่าที่ผ่านมาคนที่โชคร้ายเช่นนี้ยังเกิดขึ้นน้อยมาก และมีคนโชคดีมากกว่า
     
        แม้แต่คนที่ผ่าตัดถุงน้ำดีแล้วก็ตาม ก็ยังมีโอกาสที่อาจจะมีตะกอนไขมันที่ออกมาจากตับติดค้างอยู่ในท่อน้ำดีได้ด้วยเช่นกัน
     
        นิ่วในถุงน้ำดี (gallstone หรือ choletihiasis) เป็นโรคของถุงน้ำดีที่พบได้บ่อย โดยที่นิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากการตกผลึกของคอเลสเตอรอล เลซิทิน และกรดน้ำดี ซึ่งเป็นองค์ประกอบของน้ำดี เมื่อนิ่วผ่านลงมาในท่อน้ำดีก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง โดยเฉพาะในช่วงระหว่างมื้ออาหาร ในกรณีที่ก้อนนิ่วไปอุดตันส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบท่อน้ำดี จะทำให้เกิดอาการปวดบิดรุนแรง ที่เรียกว่า ไบเลียรี่ โคลิค (biliary colic) ผู้ป่วยที่มีนิ่วในถุงน้ำดียังมีอาการดีซ่าน ตัวเหลือง และอาจเกิดความผิดปกติของตับอีกด้วย
     
        ดังนั้นถ้าหลังล้างพิษตับแล้วมีอาการตัวเหลือง อันเดรียส์ มอริสต์ แนะนำให้ดื่มน้ำแอปเปิ้ลให้มากๆ เพื่อใช้กรดมาลิคจากแอปเปิ้ลไปลดขนาดของนิ่วให้ลดลง และหากเวลาผ่านไปเกิดอาการปวดท้องบิดรุนแรง หรืออาจมีไข้ร่วมด้วย ควรส่งตัวไปโรงพยาบาลจะดีที่สุด
     
        ทั้งนี้มีข้อน่าสังเกตคือหากผู้เข้าหลักสูตรล้างพิษที่ดื่มน้ำผลไม้น้อยหรือดื่มน้ำแอปเปิ้ลน้อย ก้อนไขมันที่ออกมาจากตับและถุงน้ำดีเหล่านี้มักจะแข็งตัวเมื่อขับถ่ายออกมา ซึ่งก็น่าจะมีความสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานในเรื่องวิตามินซีและคุณภาพของน้ำดีเปลี่ยนไปเมื่อมีน้ำผลไม้มากขึ้น
     
        โดยปกติเมื่อพบก้อนนิ่วติดค้างในถุงน้ำดี แพทย์แผนปัจจุบันจะนัดทำส่งกล้องแล้วเอาออกเลย ถ้าก้อนเล็กอาจขบแล้วใช้บอลลูนหรือเป็นตะกร้าไปสวมก้อนแล้วค่อยดึงออกมาเมื่อทำแล้วกลับบ้านได้เลย หรือรายที่เป็นก้อนใหญ่มากอาจใช้แสงเลเซอร์ยิงไปที่ก้อนให้สลายเล็กลงซึ่งใช้เวลานานและอาจผ่านตัดใส่ท่อน้ำดีให้ไหลผ่านได้ชั่วคราวแล้วนัดทำใหม่อีก 1-3 เดือน หรือไม่ก็ผ่าตัดเอาออกนอนอยู่โรงพยาบาลจนกว่าจะฟื้น
     
        ดังนั้นแม้การล้างพิษตับจะเป็นแพทย์ทางเลือก แต่ก็ต้องไม่ประมาทในการสังเกตอาการและพิจารณาเพื่อผสมผสานกับแพทย์แผนปัจจุบันด้วย

ที่มา : www.manager.co.th