วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ตามหาคำตอบ ทำไมคนล้างพิษตับจำนวนมากถึงได้มีสุขภาพที่ดีขึ้น !? (ตอนจบ) : ชีวิตใหม่หลังล้างพิษตับ

       ณ บ้านพระอาทิตย์
       โดย : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
       
       หลักสูตรการล้างพิษตับที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองไทยนั้นถือได้ว่าเป็นการบูรณาการและผสมผสานภูมิปัญญาหลายด้านเอาไว้ด้วยกัน
       
        ในตอนที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้ได้อธิบายเอาไว้แล้วว่า การอดอาหารดีอย่างไร การล้างลำไส้ให้สะอาดเกิดประโยชน์อย่างไร และการใช้น้ำมันมะกอกล่อให้น้ำดีออกมาและขับน้ำดีออกมานั้นช่วยเป็นการขับพิษออกจากร่างกายเราอย่างไร
       
        แต่สิ่งที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ก็คือ... ชีวิตใหม่หลังล้างพิษตับ ที่น่าจะสำคัญยิ่งกว่า !!!
       
        เหตุเพราะว่าในระหว่างการอบรมหลักสูตรล้างพิษที่ได้มาตรฐานนั้น จะให้องค์ความรู้ให้กับผู้เข้ารับการอบรมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย วิธีการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และอาหารที่เป็นโทษ ตลอดจนการให้ธรรมะสติเตือนใจในชีวิตหลังการล้างพิษ
       
  ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.manager.co.th 

       แม้ส่วนตัวผมแล้วจะใช้คำว่า "ก้อนไขมัน" ในการเรียกก้อนสีเขียวที่ขับถ่ายออกมาในการล้างพิษตับมากกว่าที่จะเรียกมันว่า "นิ่ว" และอาจจะไม่เห็นด้วยเสียทีเดียวหากจะเรียกวุ้นเมือกสีขาวๆว่า "เซลล์มะเร็ง" หรืออาจจะไม่สามารถสรุปได้ว่าน้ำเหนียวๆสีดำนั้นคือน้ำมันทอดที่ออกมาจากตับ เพราะอย่างไรเสียตราบใดที่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร เราก็ไม่น่าจะด่วนสรุปว่าก้อนเหล่านั้นคือสิ่งนั้นหรือสิ่งนี้
      
        เพียงแต่เราควรจะเลี่ยงคำให้ถูกต้องเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันมากขึ้นทางสถิติจะเหมาะสมกว่า
เช่น อาจเรียกผลิตภัณฑ์วุ้นสีขาวว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตามสถิติพบมากในผู้ป่วยมะเร็ง หรือผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ตามสถิติพบว่าสามารถพบได้บ่อยในคนที่มีประวัติเช่นนั้น เช่นนี้ ก็น่าจะเป็นที่รับฟังได้มากขึ้น เพราะในความจริงแล้วเราพบว่าคนที่มีประสบการณ์มากในการ "อ่านถัง" หรือวิเคราะห์จากผลิตภัณฑ์ที่ขับถ่ายออกมาอย่างละเอียดในการล้างพิษตับ เช่น ลักษณะผลิตภัณฑ์ สี กลิ่น เขาสามารถจะระบุพฤติกรรมการบริโภคของเราในอดีตได้แม่นยำมากอย่างน่าอัศจรรย์
       
        และข้อสำคัญหลายคนรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงสุขภาพของตัวเองที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสำรวจของผู้เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ ณ ศูนย์ล้างพิษของกลุ่มบุญคณา จังหวัดขอนแก่น ซึ่งตรวจเลือดและอัลตร้าซาวด์ทั้งก่อนและหลังล้างพิษตับ โดย รศ.นพ.อนัน ศรีพนัสกุล อาจารย์แพทย์จาก ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ก็ได้สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงที่ทำให้เราได้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพก่อนเข้าล้างพิษตับนั้น กลับมีผลการตรวจที่บ่งชี้ถึงสุขภาพที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ปริมาณเม็ดเลือดขาวเพิ่มสูงขึ้น ปริมาณเกล็ดเลือดเพิ่มสูงขึ้น ภาวะภูมิแพ้น้อยลง และนิ่วในถุงน้ำดีหายไป ลดจำนวนลง และลดขนาดลง ฯลฯ 
       
        โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนที่เข้าหลักสูตรล้างพิษตับได้เห็นถึงผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่ขับถ่ายออกมากับตา หลายคนจึงเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองไปอย่างมาก ยิ่งหากบางศูนย์มีการให้ข้อมูลในการบริโภคเนื้อสัตว์มากๆ หรือเปิดสารคดีของอุตสาหกรรมการฆ่าสัตว์เพื่อทำเป็นอาหารด้วยแล้ว หลายคนเปลี่ยนพฤติกรรมโดยลดการรับประทานเนื้อสัตว์ให้น้อยลง จนถึงขั้นงดเนื้อสัตว์ไปเลยก็มี หลายคนบริโภคพืชผักมากขึ้น หลายคนเลิกดื่มน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลายคนเลิกยาเสพติด หลายคนระมัดระวังอาหารทอดมันๆ หรือ หวานๆมากขึ้น และมีอีกหลายคนรับประทานอาหารให้มีปริมาณน้อยลง ฯลฯทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของ องค์ความรู้และข้อมูลที่ทำให้คนที่เข้าอบรมเชิงปฏิบัติการในการล้างพิษตับเปลี่ยนพฤติกรรมไปจากเดิมอย่างมาก และการมีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปนี้เองย่อมทำให้สุขภาพของผู้ที่เข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการมีสุขภาพที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ทำให้สามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น พึ่งยาน้อยลง พึ่งหมอน้อยลง
      
        หลายคนมีสุขภาพดีขึ้นจนลดยาเคมี ไปจนถึงขั้นปลดแอกจากทาสการรับประทานยาที่ไม่ต้องพึ่งยาเคมีอีกเลยหลังจากได้รับการฝึกอบรมการล้างพิษตับ และมีคนอีกจำนวนมากเมื่อเข้าหลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการแล้ว ก็สามารถล้างพิษตับเองต่อที่บ้านได้หลังจากนั้นอีกหลายครั้ง และถ้าบางคนมีประสบการณ์สูงก็สามารถขยายการล้างพิษไปให้กับคนใกล้ชิดในครอบครัว ญาติพี่น้อง มิตรสหาย ก็ล้วนแล้วแต่เป็นการปรับจิตใจที่มุ่งที่จะแผ่ความเมตตาไปในทุกสารทิศ เป็นพลังเชิงบวกที่ยากที่จะหาได้ยากยิ่งในยุคนี้

       
        พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปข้างต้นทำให้หลายคนเปลี่ยนวิธีคิดไปจากเดิม เมื่อ ลด ละ เลิก การบริโภคที่เป็นพิษเป็นภัยต่อร่างกาย ก็ทำให้ความโลภและการแสวงหาลดน้อยลงไปด้วย การเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบก็น้อยลง และทำให้สังคมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างร่มเย็นเป็นสุขขึ้น
       
        หลักสูตรล้างพิษตับของชาวอโศกนั้น แม้จะเน้นหนักในเรื่องการล้างพิษ แต่ความจริงแล้วพวกเขายังได้ให้ความสำคัญเรื่องสำคัญอื่นๆด้วย เพราะการเอาพิษออกเป็นส่วนสำคัญเพียงแค่ 1 ใน 8 เท่านั้น ดังจะเห็นได้จากหนังสือคู่มือการอบรม "โครงการฟื้นฟูและส่งเสริมสุขภาพองค์รวม แบบ 8 อ." จัดทำโดย ชาวศีรษะอโศก อ.กันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งความหมายของ 8 อ.คือ
       
        1. อิทธิบาท 4 (ฉันทะ, วิริยะ, จิตตะ, วิมังสา)
        2. อารมณ์
        3. อาหาร
        4. อากาศ
        5. ออกกำลังกาย
        6. เอนกาย
        7. เอาพิษออก
        8. อาชีพที่เหมาะสม

       
        การล้างพิษตับไม่ได้ทำให้คนมีอายุยืนเป็นอมตะนิรันดร์กาล และไม่ได้แปลว่าทุกคนจะหายป่วยจากโรคร้ายของตัวเองด้วยการล้างพิษตับในทุกๆโรค เพราะอย่างไรเสียทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์ทางเลือกก็ไม่สามารถทำให้มนุษย์เป็นอมตะได้เช่นกัน
       
        เพราะมนุษย์ทุกคนต่างก็มีกรรมของตัวเองที่ทำให้อายุตัวเองสั้นยาวไม่เท่ากัน และเจ็บป่วยไม่เท่ากัน และเพราะกรรมแต่ละคนก็คงจะมีโอกาสหาหนทางที่เหมาะสมกับตัวเองให้มีสุขภาพที่ดีได้ไม่เท่ากันเช่นกัน
       
        พระไตรปิฎกเล่มที่ 14 จูฬกัมมวิภังคสูตร ได้กล่าวถึงตั้งแต่ข้อ 582 - 583 เกี่ยวกับการมีอายุยืนและอายุสั้นว่า ถ้าเราฆ่าชีวิตสัตว์ มีจิตใจที่เหี้ยมโหด หมกมุ่นอยู่ในการประหัตประหาร ตายไปก็เข้าถึงนรก เกิดมาเป็นมนุษย์ก็มีอายุสั้น ในทางตรงกันข้ามถ้าเราเป็นผู้ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่สร้างโทษภัย วางอาวุธ มีความละอายที่จะทำบาป มีแต่ความเอ็นดู ช่วยเหลือเกื้อกูลสรรพสัตว์และภูต หากตายไปก็จะเข้าถึงสุขคติในโลกสวรรค์ หากเกิดมาเป็นมนุษย์ก็จะมีอายุยืน
      
        พระไตรปิฎกเล่มที่ 14 จูฬกัมมวิภังคสูตร ได้กล่าวถึงตั้งแต่ข้อ 584-585 
เกี่ยวกับเหตุของการมีโรคน้อยและโรคมากว่า บุคคลใดหากชอบเบียดเบียนสัตว์ด้วย ฝ่ามือ ท่อนดิน ท่อนไม้ ของมีคม หากเขาตายไปก็จะเข้าถึงนรก ถ้าเกิดมาเป็นมนุษย์จะเป็นคนมีโรคมาก ในทางตรงกันข้ามบุคคลใดปกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วย ฝ่ามือ ก้อนดิน ท่อนไม้ ของมีคม หากเขาตายไปจะเข้าถึงสุคคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นคนมีโรคน้อย
       
        พระไตรปิฎกเล่ม 20 ข้อ 461 คิลานสูตร 
ได้กล่าวถึงธรรมะจากพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับลักษณะของคนไข้ในโลกนี้มี 3 จำพวก พวกแรก ทำอย่างไรก็ไม่หายจากการเจ็บป่วยไม่ว่าจะได้อาหารดีหรือไม่ได้ก็ตาม ได้ยาดีหรือไม่ได้ก็ตาม ได้หมอหรือคนดูแลที่ดีหรือไม่ก็ตาม พวกที่สองคือ ทำอย่างไรเมื่อถึงเวลาก็หายจากโรคเอง ไม่ว่าจะได้อาหารดีหรือไม่ได้ก็ตาม ไม่ว่าจะได้ยาดีหรือไม่ได้ก็ตาม และไม่ว่าจะได้หมอหรือคนที่ดูแลที่ดีหรือไม่ได้ก็ตาม พวกที่สามคือ ต้องได้อาหารที่ดี ยาดี และหมอหรือคนดูแลที่ดีจึงจะหาย และเราก็หวังว่าคนที่เข้าหลักสูตรล้างพิษตับแล้วหายจะอยู่กลุ่มคนพวกที่สองและสามที่ถึงเวลาต้องหมดการชดใช้กรรมที่ตัวเองได้เคยก่อเอาไว้ในชาติก่อนหรือชาตินี้
      
        ทั้งหมดก็สะท้อนให้เห็นว่าความตายเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ อายุยืนหรือสั้นก็ขึ้นอยู่กับกรรม มีโรคมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกรรม และจะรักษาหายได้ จะเจอวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองจนทำให้หายเจ็บป่วยได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับกรรมด้วยเช่นกัน

       
        ดังนั้นการล้างพิษตับน่าจะเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งให้มีสุขภาพที่ดีแบบพึ่งพาตนเองได้ แต่ก็ทำให้คนที่เข้าอบรมหลักสูตรได้มีสติในการดำเนินชีวิตมากขึ้น มีความโลภน้อยลง และเบียดเบียนสังคมน้อยลง และมุ่งเน้นจะทำประโยชน์ในสังคมให้มากขึ้นในช่วงชีวิตที่เหลือ ตรงนี้ต่างหากที่มีความสำคัญมากสิ่งอื่นใด
       
        เพราะถ้าประชาชนมีความคิดเปลี่ยนแปลงเพื่อปฏิวัติสุขภาพตนเองเสียใหม่กันมากๆ การบริโภคอาหารและยาก็จะเปลี่ยนไป การบริโภคและความโลภก็จะลดน้อยลง สุขภาพและฐานะทางเศรษฐกิจของประชาชนก็จะเปลี่ยนแปลงไป กระบวนการผลิตในประเทศก็จะเปลี่ยนตาม ระบบเศรษฐกิจก็จะเปลี่ยนตาม และสามารถลุกลามไปถึงการสร้างคุณธรรมและศีลธรรมตลอดจนสำนึกที่ดีต่อสังคมโดยรวมให้มีมากขึ้น ถึงเวลานั้นการเมืองย่อมเปลี่ยนตาม และประเทศไทยก็จะน่าอยู่มากขึ้น
       
        ทั้งหมดนี้เป็นความฝันเล็กๆที่ผมอยากได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณค่าในช่วงที่เรายังมีชีวิตอยู่ !!!

ที่มา : www.manager.co.th